ไมโครพลาสมา เชื้อระบาดใหม่ ติดต่อจากไหน-ป้องกันยังไงบ้าง?
Posted: 02/01/2025

ไมโครพลาสมา เชื้อระบาดใหม่ ติดต่อจากไหน-ป้องกันยังไงบ้าง?
ช่วงนี้หลายคนคงคุ้นคำว่า เชื้อ "ไมโครพลาสมา" เนื่องจากในประเทศไทยขณะนี้พบจำนวนผู้ติดเชื้อมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน และกลายเป็นภัยเงียบที่สร้างความกังวลในหลายครอบครัว โดยเฉพาะในเด็กและคนที่อยู่ในพื้นที่แออัด เชื้อนี้มักก่อให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจ เช่น หลอดลมอักเสบหรือปอดอักเสบ หากไม่ได้รับการดูแลที่ถูกต้อง อาการอาจลุกลามกลายเป็นปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงขึ้น แล้วเชื้อไมโครพลาสมา ติดต่อจากไหน อาการเป็นยังไง ป้องกันยังไงได้บ้างมาดูเลย!
ไมโครพลาสมาคืออะไร?
ไมโครพลาสมา (Mycoplasma) เป็นแบคทีเรียขนาดเล็กที่แตกต่างจากแบคทีเรียทั่วไป เนื่องจากไม่มีผนังเซลล์ จึงมีลักษณะยืดหยุ่นและสามารถเปลี่ยนรูปร่างได้ง่าย พบว่าเป็นสาเหตุสำคัญของการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ เช่น หลอดลมอักเสบและปอดอักเสบ โดยเฉพาะในเด็กและวัยรุ่นไมโครพลาสมามีหลายสายพันธุ์ แต่สายพันธุ์ที่เป็นสาเหตุของการติดเชื้อในมนุษย์ที่พบบ่อยที่สุดคือ Mycoplasma pneumoniae เชื้อนี้สามารถแพร่กระจายผ่านละอองฝอยจากการไอหรือจาม และมักระบาดในพื้นที่ที่มีคนอยู่รวมกันหนาแน่น เช่น โรงเรียนหรือชุมชนแออัด

ไมโครพลาสมาติดต่อกันได้อย่างไร?
เชื้อไมโครพลาสมาสามารถติดต่อจากคนสู่คนผ่านการสัมผัส เช่น
- 1.ติดต่อผ่านละอองฝอยจากการไอหรือจามของผู้ติดเชื้อ
- 2.สัมผัสสิ่งของที่ปนเปื้อนเชื้อ เช่น มือที่ไม่ได้ล้างแล้วสัมผัสใบหน้า
- 3.การแพร่เชื้อมักเกิดในพื้นที่แออัด เช่น โรงเรียนหรือชุมชน
อาการที่พบได้เมื่อติดเชื้อไมโครพลาสมา
เมื่อมีการติดเชื้อไมโครพลาสมา มักจะมีระยะฟักตัวประมาณ 2 สัปดาห์ แล้วผู้ป่วยถึงจะแสดงอาการออกมา โดยอาการเหล่านี้อาจเริ่มปรากฏอย่างค่อยเป็นค่อยไป และสามารถมีความรุนแรงที่แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล อาการที่พบได้บ่อยมีดังนี้
1. มีไข้
ผู้ติดเชื้อไมโครพลาสมาอาจมีไข้ต่ำ ๆ ที่เป็นเรื้อรัง หรือบางกรณีอาจมีไข้สูงขึ้นได้ อาการไข้เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าร่างกายกำลังต่อสู้กับการติดเชื้อ
2. ไอแห้งเรื้อรัง
การไอแห้งเป็นอาการที่พบได้บ่อยในผู้ติดเชื้อไมโครพลาสมา ซึ่งอาการนี้อาจยาวนานและเรื้อรังจนทำให้ผู้ป่วยรู้สึกไม่สบายตัว
3. เจ็บคอหรือแสบคอ
การเจ็บคอหรือแสบคอเป็นอาการที่มักเกิดขึ้นร่วมกับการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ ซึ่งเชื้อไมโครพลาสมาทำให้เยื่อบุคออักเสบและทำให้รู้สึกเจ็บหรือแสบ
4. ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อหรืออ่อนเพลีย
ผู้ติดเชื้อไมโครพลาสมาอาจรู้สึกปวดเมื่อยกล้ามเนื้อและอ่อนเพลีย ร่างกายจะรู้สึกเหนื่อยล้าเนื่องจากการต่อสู้กับการติดเชื้อ
5. หายใจลำบากหรือเจ็บหน้าอก (ในกรณีรุนแรง)
ในกรณีที่การติดเชื้อมีความรุนแรง ผู้ป่วยอาจมีอาการหายใจลำบาก หรือรู้สึกเจ็บหน้าอก ซึ่งเป็นสัญญาณว่าการติดเชื้ออาจลุกลามไปถึงปอดและทำให้เกิดการอักเสบของปอด
6. คัดจมูกหรือมีน้ำมูก (ในบางกรณี)
อาการคัดจมูกหรือมีน้ำมูกอาจพบได้ในบางกรณี ซึ่งเชื้อไมโครพลาสมาทำให้เยื่อบุจมูกอักเสบและทำให้เกิดการคัดจมูกหรือมีน้ำมูก
การพัฒนาเป็นปอดอักเสบ
อาการของการติดเชื้อไมโครพลาสมาอาจเริ่มอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยในบางรายอาจพัฒนาเป็นปอดอักเสบได้ อาการปอดอักเสบจากเชื้อไมโครพลาสมา (Mycoplasma pneumonia) มักมีลักษณะดังนี้
- - ไอแห้งเรื้อรังที่อาจกลายเป็นไอมีเสมหะ
- - หายใจลำบากหรือหายใจสั้น
- - เจ็บหน้าอกเมื่อหายใจลึกหรือไอ
- - อ่อนเพลียและรู้สึกเหนื่อยล้ามากขึ้น
วิธีการป้องกันการติดเชื้อไมโครพลาสมา
1. รักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล
- - ล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่และน้ำสะอาดอย่างน้อย 20 วินาที หรือใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ เมื่อไม่สามารถหาน้ำสะอาดได้
- - หลีกเลี่ยงการสัมผัส พยายามไม่สัมผัสใบหน้า ตา จมูก หรือปาก โดยไม่ได้ล้างมือก่อน
2. หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับผู้ป่วย
- - หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดหากคุณทราบว่ามีผู้ป่วยติดเชื้อไมโครพลาสมา ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิด เช่น การกอด จูบ หรือใช้สิ่งของร่วมกัน
- - ใส่หน้ากากอนามัยช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อ โดยเฉพาะในสถานที่แออัดหรือเมื่ออยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วย
3. รักษาสุขภาพให้แข็งแรง
- - รับประทานอาหารที่มีประโยชน์อาหารที่สมดุลและมีประโยชน์ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
- - ออกกำลังกายเป็นประจำช่วยเพิ่มความแข็งแรงของร่างกายและระบบภูมิคุ้มกัน
- - การพักผ่อนที่เพียงพอช่วยให้ร่างกายมีพลังในการต้านทานโรค
4. รักษาความสะอาดของสิ่งแวดล้อม
- - ทำความสะอาดพื้นผิว เช็ดทำความสะอาดพื้นผิวที่สัมผัสบ่อยๆ เช่น ลูกบิดประตู โทรศัพท์มือถือ และคีย์บอร์ด ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ
- - รักษาความสะอาดของเครื่องใช้ส่วนตัวเปลี่ยนผ้าเช็ดตัวและผ้าปูที่นอนอย่างสม่ำเสมอ
5. การดูแลเมื่อมีอาการป่วย
- - พักผ่อนให้เพียงพอ หากมีอาการป่วย ควรพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อให้ร่างกายสามารถฟื้นฟูตัวเองได้
- - การดื่มน้ำมากๆ ช่วยรักษาสมดุลของร่างกายและลดอาการแห้งของลำคอ
- - ปรึกษาแพทย์ หากมีอาการป่วย ควรพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม
6. การรับวัคซีน
- - ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับวัคซีน ถึงแม้ว่าปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกันไมโครพลาสมาโดยตรง แต่การรับวัคซีนป้องกันโรคทางเดินหายใจอื่นๆ เช่น ไข้หวัดใหญ่และปอดบวม อาจช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อแทรกซ้อนได้เช่นกัน
ไมโครพลาสมาทำให้เกิดโรคอะไรได้บ้าง
- 1.โรคทางเดินหายใจ เช่น คออักเสบ หลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบ
- 2.ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น เช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ โลหิตจางจากเม็ดเลือดแดงแตก ผื่นผิวหนังอักเสบ
นอกจากนี้ ไมโคพลาสมายังสามารถก่อให้เกิดโรคในระบบสืบพันธุ์และทางเดินปัสสาวะได้อีกด้วย ซึ่งจากที่กล่าวมาข้างต้นเชื้อไมโครพลาสมาไม่อันตรายเลยหากเรารู้วิธีการป้องกันซึ่งก็เหมือนเดิมกับเชื้อโควิด 19 เลยก็ว่าได้ ดังนั้นการป้องกันที่ดีที่สุดคือ การใส่แมส พยายามไม่สัมผัสสิ่งต่างๆ การหลีกเลี่ยงสถานที่แออัด คนจำนวนมาก สถานที่ที่มีการระบายอากาศไม่ดี หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดผู้ป่วย ใส่หน้ากากอนามัย และล้างมือให้บ่อยๆ โดยเฉพาะก่อนการปรุงอาหารหรือรับประทานอาหาร เพียงเท่านี้คุณและครอบครัวก็จะปลอดภัยจากเชื้อไมโครพลาสมาได้